
สาวใหญ่ลักษณะของการป่วยจิตเวชศาสตร์ คลั่งหนัก ขัง 2 คุณยายหลาน เอาไว้ห้องไม่ให้รับประทานนม-ทานอาหาร ตำรวจและก็สมัครใจช่วยเหลือช่วยพูดจายุ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (21 ส.ค.) ศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ สภ.หล่มสัก ได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยจิตเวช เกิดอาการคลุ้มคลั่งก่อเหตุ ขังคุณยาย วัย 89 ปี และหลานวัย 5 ขวบ ไว้ภายในบ้านหลังหนึ่ง ถนนสามัคคีชัย เทศบาลหล่มสัก อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ slotxo
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ยกพื้นสูง ซึ่งภายในบ้านมี ยายทองมา อายุ 89 ปี และหลานวัย 5 ขวบ ซึ่งถูกลูกสาวป่วยจิตเวช ปิดล็อกประตูไว้แน่นหนา โดยกำลังส่งเสียงโวยวายใส่เจ้าหน้าที่ และอาสากู้ภัยเมื่อไปถึง ต่อมาทราบชื่อคือ นางจารุณี หรือ ป้าตุ่น อายุ 65 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าว สมัคร slotxo
โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการเจรจา ขอให้ป้าตุ่นเปิดประตูบ้าน เพื่อจะนำอาหารและนมไปให้กับเด็กและยาย แต่ป้าตุ่นกลับไม่ยอม แถมยังส่งเสียงโวยวายหนักขึ้นไปอีก อีกทั้งก่อนหน้าที่กำลังเจ้าหน้าที่จะมาถึงนั้น ทางเพื่อนบ้านก็ได้มาเจรจาจะขอนำนมและอาหารไปให้กับ 2 ยายหลานแล้ว แต่ไม่เป็นผลเช่นกัน จึงต้องประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจมาช่วยระงับเหตุอีกแรงหนึ่ง
ต่อมาเมื่อไม่สามารถเกลี้ยกล่อมให้เปิดประตูบ้านได้ ทางอาสากู้ภัยจึงได้ตัดสินใจนำบันไดมาพาดที่ข้างฝาบ้าน แล้วปีนเข้าไปทางหน้าต่างเพื่อเปิดประตูบ้านให้เจ้าหน้าที่เข้ามาควบคุมตัวป้าตุ่น ซึ่งก็ยังคงโวยวายเสียงดังตลอดเวลา พร้อมทั้งช่วยกันแยกตัว 2 ยายหลาน ออกมาจากผู้ก่อเหตุได้อย่างปลอดภัย และมีญาติมารับตัวกลับไปดูแลที่บ้าน ส่วนตัวป้าตุ่นนั้น ทางญาติพี่น้องก็จะได้ปรึกษากัน เพื่อหาแนวทางรักษาอาการป่วยจิตเวช ให้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช่นเดิม สล็อต xo จากการสอบถาม ญาติรายหนึ่ง เปิดเผยว่า นางจารุณี หรือ ป้าตุ่น เคยมีอาการป่วยจิตเวช เมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว โดยได้ทำการรักษากินยาจนอาการดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และอาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง กระทั่งก่อนหน้านี้ ได้นำหลานวัย 5 ขวบ ซึ่งเป็นบุตรของลูกชายมาเลี้ยง โดยมี ยายทองมา ผู้เป็นแม่ มาอยู่เป็นเพื่อนด้วย slotxo ทดลองเล่น
จนกระทั่งเมื่อ 1-2 อาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ป้าตุ่น ได้กำเนิดอาการเครียด จากปัญหาข้อโต้เถียงระหว่างพี่น้อง ทำให้ป้าตุ่นเริ่มมีลักษณะอาการจิตเวชศาสตร์ขึ้นมาอีกที กำเนิดความระแวดระวัง กลัวว่าจะมาคนมาจับ ก็เลยได้ทำปิดล็อกบ้านพร้อมขังผู้เป็นแม่รวมทั้งหลานเอาไว้ในบ้าน ไม่ให้ออกไปไหน กระทั่งญาติจะนำของกินรวมทั้งนมมาให้ยายหลาน ก็เข้าไปมิได้ เลยแจ้งข้าราชการเข้าช่วยเหลือดังที่กล่าวถึงแล้ว